ดงบังชินกิ ยุนโฮ ได้เผยถึงความสัมพันธ์ ระหว่างเค้ากับ บิ๊กแบง ซึงรี
ในวันที่ 2 มีนาคม ดงบังชินกิได้ออกรายการ “Knee-Drop Guru” ทางสถานี MBC เกี่ยวกับเบื้องหลังเรื่องราวของพวกเค้า กับการโปรโมต 8 ปี,เดบิวส์กับสากล และการแตกหักกับ JYJ
ยุนโฮ ยังได้เผยเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของเค้ากับ ซึงรี โดยบอกว่า "ตอนที่ผมเรียนอยู่ที่โรงเรียนใน กวางจู พวกเราได้ตั้งทีมเต้นซึ่งค่อนข้างโด่งดัง และชนะการประกวดการเต้น YMCA ทุกคนรู้จักว่าผมคือใคร ผมยังมีกระทั่งแฟนคลับแล้วก่อนที่จะเดบิวส์"
เค้าเสริมว่า "บิ๊กแบง ซึงรี ได้ไปที่โรงเรียนประถมของผม เค้า ก็โด่งดังเหมือนกัน แต่กลุ่มของเค้ายังไม่ค่อยดังเท่าไหร่ เค้ามีความสามารถมากในตอนเด็ก อย่างไรก็ตามบอกตามตรง ผมไม่เคยรู้มาก่อนว่า ซึงรี จะทำได้ดีขนาดนี้"
ไอดอลชายได้กล่าวขอโทษ ซึงรี และหัวเราะอย่างเขินๆ หลังจากได้เปิดเผยความรู้สึกที่แท้จริงเกี่ยวกับเ้ค้า เค้ายังเปิดเผยเกี่ยวกับเหตุการณ์เล็กน้อยบางอย่าง เมื่อตานที่เค้าซื้อนมกล้วยให้กับซึงรี และตอนที่เค้าเจอซึงรี ที่ กวางจู หลังจากพวกเค้า เดบิวส์เป็นนักร้องแล้ว
ดูแบบไม่มีซับได้ที่นี่ค่ะ
แปลไทย: TVXQ.QB
#Original in English version
TVXQ’s Yunho recently revealed his relationship with Big Bang’s Seungri.
On March 2nd, TVXQ appeared on MBC’s “Knee-Drop Guru” and revealed the story behind their 8-year group promotion, global debut, and their break with JYJ.
Yunho also revealed his relationship with Seungri, saying, “When I was attending middle school in Kwang-Ju, we made a dance team which got really popular when we won a YMCA dance competition. Everyone knew who I was. I already had a fan club before I even debuted“.
He added, “Big Bang’s Seungri went to my elementary school. He, too, was famous, but his group was really famous. He was talented even when he was young. However, frankly, I didn’t know that Seungri would do this well“.
The idol apologized to Seungri and laughed shyly after revealing his true feelings about him. He also revealed an incident when he comforted Seungri by buying him banana milk at a cafe, and when he met Seungri in Kwang-Ju after they both debuted as singers.
source: Star News via Nate
credit: allkpop
shared by: TVXQ.QB
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น